วันจันทร์, มกราคม 30, 2560

Because I'm a Weapon Shop Uncle เพราะชั้นคือตาลุงร้านขายอาวุธยังไงล่ะ! : 14 ตาลุงกับกับการเตรียมตัวออกเดินทาง (1)

Chapter 14: ตาลุงกับการเตรียมตัวออกเดินทาง (1)


ชั้นตัดสินใจแล้ว ชั้นจะออกไปเรียนรู้วิธีการสร้างดาบ

ดังนั้นชั้นจำเป็นจะต้องเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง

ถึงแม้ชั้นจะรู้สึกผิดสำหรับผู้กล้าที่จะมาซื้ออาวุธกับชั้นในอนาคตก็เถอะ จากนี้ไป ชั้นคือพ่อค้านักเดินทาง ตาลุงไจ้เฝอ

เพื่อที่จะเป็นช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของโลก อาจารย์ใหญ่เอ๋ย จงบอกสูตรโกงมาซะดีๆ

แต่ก่อนหน้านั้น ชั้นต้องเริ่มเตรียมตัวกันก่อน

“แล้ว... เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

“หลุมยักษ์ตรงตีนภูเขาเป็นฝีมือของชั้นเอง!”

อย่างแรกเลย ชั้นต้องคุกเข่าขอโทษหัวหน้าหมู่บ้านที่ทั้งผมและหนวดเคราเป็นสีขาวไปหมดแล้ว

ในฐานะที่เป็นตาลุงแล้วมาคุกเข่าต่อหน้าสาธารณะอย่างนี้ มันไม่ใช่อะไรนอกซะจากการกระทำที่น่าอาย

แต่มันช่วยไม่ได้ แบบนี้แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุดคิดแล้วคิดอีกก็ยังจะเข้าใจผิดอยู่ดี

ชั้นไม่รู้ตัวเลยจริงๆว่า ดินตรงตีนภูเขากับหน้าทางเข้าร้านของชั้นมันเป็นคนละสีกัน!

ตอนเช้าของวันนี้ เสียงวุ่นวายทำชั้นตื่น

พอชั้นไปที่ประตูหน้า ชั้นก็เข้าใจทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ถ้าพื้นดินส่วนใหญ่ที่เป็นสีขาว กลายมาเป็นสีเหลืองล่ะก็ คงยากที่จะไม่คิดว่ามันจะทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น

โชคดีที่หัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับชั้นมากนัก เขาเป็นคนดีจริงๆเลยแฮะ

นอกจากที่ให้ชั้นจ่ายค่าซ่อมไป 20 เหรียญเงินน่ะนะ

พอเสร็จเรื่องแล้ว ชั้นก็จะไปจัดการเรื่องที่โรงเรียนของคาโลน่าต่อ ตามที่เธอว่าไว้ มันค่อนข้างไกลจากที่นี่พอสมควร

ชั้นดูแผนที่ เทียบกับระยะทางที่โลกเก่าแล้ว น่าจะมีระยะทางเท่ากับจากปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้เลยแหละ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันชั้นมีแค่เจ้าขนปุยนี่เป็นพาหนะ มันต้องเป็นการเดินทางที่ยากลำบากแน่

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ชั้นได้เห็นแผนที่

อาณาจักรของเรา โดพูนัวว่า มีรูปร่างไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้ว่าเจ้าพวกที่ปกครองจะพยายามตกแต่งให้มันสวย แต่ชั้นก็ยังรู้สึกว่ามันดูเหมือนดักแด้อยู่ดี

ถ้าชั้นเป็นพวกนักท่องเที่ยวล่ะก็ ชั้นคงจะเรียกมันว่าอาณาจักรดักแด้อย่างไม่ลังเลเลย แต่ตอนนี้ชั้นจะเรียกมันว่าสิ่งที่เชื่อมโยงกับความสุข

ชั้นไม่ได้ไม่พอใจโดพูนัวว่าไปซะทั้งหมด ทั้งสภาพที่นี่และลูกค้าค่อนข้างเป็นประโยชน์กับชั้นในฐานะคนที่ถูกส่งมาเกิดใหม่พอสมควร แต่ก็พูดไม่ได้ว่าชั้นรักมันเหมือนกัน

ในโลกเดิมชั้นมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 30 ปี ดังนั้นพวกความรักชาติที่ชั้นมีต่อประเทศในชาติก่อนเนี่ย มันเลยฝังรากลึกลงไป แต่ที่นี่มันไม่เหมือนกันเวลา 2 ปี มันยังสั้นเกินไป

ที่ที่ชั้นอยู่ หมู่บ้านเริ่มต้น (ตั้งชื่อเอาเอง) มันไม่ได้ถูกระบุตำแหน่งเอาไว้บนแผนที่ ใช้แต่ความรู้สึกกะตำแหน่งเอา การที่จะไปยังตำแหน่งของอาซาเร่ จะต้องข้ามเจ้าดักแด้นี่ไปประมาณครึ่งนึง

โดพูนัวว่าไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่มันอยู่ติดกับชายแดนที่อยู่ของเผ่าปีศาจ ดังนั้นมันจึงอยู่ในแนวหน้าเลยล่ะ

จะทิ้งเจ้าขนปุยกับอีแลนไว้ที่นี่ตามลำพังก็ไม่ได้ พวกเขาต้องไปกับชั้น

พอมาคิดถึงเรื่องนี้ ของที่ชั้นต้องซื้อมีเยอะเลยแฮะ

นี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นจะออกจากหมู่บ้าน เพราะงั้นชั้นเลยไม่มีทั้งเกวียนบรรทุกของ หรืออุปกรณ์ที่พัก

ถึงแม้ชั้นจะเรียกเจ้าขนปุยเป็นพาหนะ แต่ชั้นก็ไม่คิดจะขี่มันหรอกนะ

ชั้นเอามันมาเป็นสัตว์เลี้ยง ถ้าต้องให้มันไปลากเกวียนล่ะก็ อีแลนคงไม่พอใจแน่ๆ

จะเช่าเกวียนบรรทุกของ หรือซื้อม้าสองตัวดีนะ ชั้นเจอกับการตัดสินใจที่ยุ่งยากซะแล้วสิ

จากเรื่องราคาแล้วเนี่ย มันไม่ใช่การตัดสินครั้งใหญ่นัก

ปัญหาก็คือถ้าชั้นซื้อม้าไปล่ะก็ ชั้นก็จะอดเผยความสามารถอันสุดแสนจะยอดเยี่ยมของชั้นในการสร้างเกวียนบรรทุกของน่ะสิ

พอมาคิดๆดูแล้ว ถ้าชั้นขี่ม้าที่ดูสง่างามและไปพบกับผู้หญิงแก่ๆนี่ล่ะก็....

มันคงจะดูเหมือนเจ้าชายไปรับเจ้าหญิงเลยสินะ

แค่คิดถึงตรงนี้ ท้องไส้ชั้นก็ปั่นป่วนไปหมดแล้ว

แน่นอนเลยว่าชั้นจะเช่าเกวียนบรรทุกของ

ต้องบอกเลยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นได้เลือกม้า

“คุณไม่ค่อยเก่งเรื่องนี้งั้นสินะ?”

ตอนที่ชั้นจ้องไปที่ม้าสำหรับลากเกวียน กำลังงงๆอยู่ และบอกไม่ได้ว่าตัวไหนมันเป็นม้าชั้นดีหรือไม่ดี ก็มีเสียงอันนุ่มนวลของผู้หญิงดังมาจากข้างหลังชั้น

เธอพูดอย่างนุ่มนวล แต่การที่ชั้นไม่รู้สึกตัวเลยจนเข้ามาใกล้ได้ขนาดนี้นี่มันน่ากลัวจริงๆเลยแฮะ

ชั้นหันหัวไปอย่างกับเครื่องจักร

เป็นเจ้าของร้านขายดอกไม้ พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ หยาจือ

“โอ๊ะ อย่าพูดเหมือนกับว่าชั้นเก่งไปซะทุกอย่างสิ ชั้นมันก็แค่คนบ้านนอกที่เก่งแค่เรื่องทำอาวุธเท่านั้นเอง”

ชั้นยิ้มพร้อมกับหยีตาลงขณะที่พูดออกไป

“ไหน ไหน  ดูสิ ชั้นเชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องม้าตัวผู้ล่ะก็ คุณน่าจะเข้าใจมันอย่างแน่นอนเลยนะ”

วินาทีต่อมา ฝ่ามือของเราก็ประสานล็อคนิ้วทั้งสิบเข้าด้วยกัน อยู่ในท่าที่เหมือนกับนักมวยปล้ำสองคนจับกันอยู่

“เธอพูดเรื่องอะไรงั้นหรอ ยัยแก่?”

“เราทั้งคู่ก็อายุพอๆกันนะตาลุง ชั้นได้ยินมาว่านายมาพบกับคุณผู้ช่วยในร้านขายดอกไม้เป็นการส่วนตัวงั้นสินะ ล่าสุดที่ชั้นเห็นคุณ คุณกำลังป่วยอยู่ ชั้นก็เลยไม่ได้ยกมันขึ้นมาพูด คุณรู้ตัวใช่มั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่?”

“เอ๋? นี่เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไรกัน? หลี่ชาหนาย กลายมาเป็นยัยจอมโฉดแบบเธอเร็วมากเลยนะ รอยยิ้มแบบนั้นอย่างกับมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลย”

“ฮึ่ม! ชั้นก็แค่สอนให้เธอรู้จักวิธีการตอบโต้กับการลวนลามของตาลุงวัยกลางคนเท่านั้นแหละ”

เรามักจะเถียงกันแบบนี้เป็นบางครั้ง

“ครั้งนี้ชั้นจะปล่อยไป คุณอยากจะไปไหนล่ะ? คราวนี้ชั้นจะช่วยคุณเอง  ถ้าคุณจะเดินทางนานๆล่ะก็ เกวียนคันนี้ดีที่สุดแล้ว”

เธอพูดกับชั้น

ชั้นมองตามทิศทางที่เธอชี้ไป ทันใดนั้นชั้นก็นึกถึงภาพการเดินทางออกมา

ถนนเก่าๆ ลมแรงๆ กับม้าตัวผอมๆ

“ม้าสองตัวนั้นมันดูอ่อนแอจริงๆนะ...นี่เธอไม่ได้หลอกชั้นใช่มั้ยเนี่ย?”

“อย่ามองแค่ว่ามันผอมกว่าตัวอื่นสิ ความอดทนมันสูงมากเลยนะ”

“โอ๊ะ โทษทีนะ ชั้นไม่คิดว่าเธอจะรู้เรื่องม้ามากขนาดนี้น่ะ คิดว่าจะดีแต่ปาก”

หยาจือใช้รอยยิ้มแบบนางฟ้ามองมาที่ชั้น

“ไปตายซะ”

ตอนที่ชั้นกำลังจ่ายเงิน ชั้นก็เห็นคาโลน่า

“คาโลน่า?”

“มาสเตอร์!”

มันก็ไม่เป็นไรหรอกนะที่เธอจะเรียกชั้นว่ามาสเตอร์น่ะ แต่เธอดันพูดมันออกมาต่อหน้าหยาจือนี่สิ ชั้นคงกันไม่ให้โดนล้อไม่ได้แล้วสินะ

และก็เป็นอย่างที่บอกไป

ถึงแม้ว่ารอยยิ้มของหยาจือจะยังไม่จางหายไป แต่ชั้นก็รู้สึกได้ถึงออร่าของเธอเรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลี่ชาหนายออกจากร้านไป ผู้หญิงคนนี้ หยาจือ ก็เป็นปีศาจดีๆนี่เอง

“พวกหนุ่มสาวมักจะเป็นแบบนี้เสมอเลยงั้นสินะ”

คาโลน่ามองไปที่หยาจืออย่างไม่เข้าใจ

“คุณคือ...พี่สาวจากร้านขายดอกไม้ใช่มั้ยคะ? ชั้นคือเจ้าหน้าที่สืบสวน คาดลน่า”

ทันใดนั้น หยาจือก็เข้ามาจับแขนชั้นไว้

ยัยนี่กำลังทำอะไรกัน?

เป็นเพราะหน้าอกเธอกำลังโดนชั้นอยู่ ทำให้ชั้นกังวลนิดหน่อย

“สวัสดีจ้ะ คุณคาโลน่า ชั้นคือภรรยาเก่าที่ถูกใช้แล้วทิ้งของตาลุงคนนี้น่ะจ้ะ”

บ้าเอ๊ยยย!!!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก