วันเสาร์, มกราคม 14, 2560

Because I'm a Weapon Shop Uncle เพราะชั้นคือตาลุงร้านขายอาวุธยังไงล่ะ! : 03 ตาลุงกับเด็กสาวร้านขายดอกไม้

Chapter 3: ตาลุงกับเด็กสาวร้านขายดอกไม้ เมื่อวาน ชั้นได้บรรลุอะไรบางอย่างกับบทบาทของชั้น ถ้าเราไม่ได้มองโลกนี้เป็นมังงะ แต่มองว่าเป็นเกมล่ะก็ ชั้นน่าจะได้รับบทบาทเป็น NPC ไงล่ะ! พอความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวชั้น สิ่งที่ชั้นเป็นตอนนี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมาเยอะเลยทีเดียว “ยินดีต้อนรับ” “ขอบพระคุณที่อุดหนุน” ว่ากันตามตรงแล้ว ถ้าเป็นแค่ NPC คำพูดพวกนี้ก็น่าจะพอ เพราะงั้นตั้งแต่เมื่อวาน ชั้นจึงฝึกพูดอย่างกับหุ่นยนต์ “ตู๊ดตู๊ด ยิน-ดี-ต้อน-รับ” ฝึกพูดแบบหุ่นยนต์กับลูกค้าในจินตนาการ “สิน-ค้า-ของ-เรา-เป็น-ของ-คุณ-ภาพ-ดี” ถึงจะเป็นแค่การแกล้งทำ ชั้นก็ยังคิดว่าชั้นทำได้ค่อนข้างดีเลยนะ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เช้าแล้วที่อีแลนไปแอบอยู่หลังประตูพร้อมกับมองชั้นด้วยสายตาหวาดกลัว อุ้งมือเล็กๆของเธอจับขอบประตูไว้ และร่างกายเล็กๆของเธอก็สั่นกลัวเป็นอย่างมาก รังเกียจอะไรกันขนาดนั้น! เด็กน้อยอย่างเธอไม่มีทางเข้าใจความคิดสุดบรรเจิดของชั้นได้หรอก! แต่สุดท้ายแล้ว นี่มันเป็นโลกแห่งความจริง คำพูดพวกนั้นคงไม่พอที่จะสร้างความบันเทิงให้ลูกค้าได้หรอก ชั้นคิดว่าชั้นน่าจะต้องฝึกพูดแบบหุ่นยนต์เพิ่มซะแล้วสิ “เฮ้-ไอ้-สวะ-ถ้า-แก-ไม่-ซื้อ-ของ-ล่ะ-ก็” ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ลักษณะนิสัยมันก็จะเปลี่ยนไปเลยน่ะสิ ขณะที่ผมกำลังหัวหมุนอยู่ ประตูร้านก็เปิดออก “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ลุงไจ้” เด็กสาวอายุ 17 ปี เดินเข้ามาในร้าน เธอสวมกระโปรงสั้นสีขาว เสื้อแจ็คเก็ตสีฟ้า และร้องเท้าผ้าใบ ถึงแม้ใบหน้าเธอจะไม่น่ารักเท่ากับเอแลน แต่รอยยิ้มเธอนั้นช่างดูสดใสและอบอุ่น ผมสีเหลืองอ่อนของเธอ ถูกมัดเป็นหางม้าแล้วปล่อยพาดยาวข้ามไหล่มาถึงหน้าอก อีกอย่างนึงคือ หน้าอกของเธอนั้นเติบโตมาได้ดีเยี่ยมจริงๆ ถ้าเทียบกับเด็กสาวอายุราวๆเดียวกัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหน้าอกของเธอจะต้องใหญ่ที่สุดอย่างแน่นอน เด็กสาวคนนี้มีชื่อว่า หลี่ชาหนาย เธอฝึกงานอยู่ที่ร้านขายดอกไม้ ใกล้ๆกับร้านของชั้น “ยินดี-ต้อน-รับ” ชั้นใช้การพูดแบบหุ่นยนต์ตอบกลับเธอไป แต่หลีดันตอบกลับด้วยความช็อคแทน “คะ-คุณลุงไจ้ คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?” เธอตะโกนถามจากตรงประตู โดยที่ไม่มีการบอกกล่าว อีแลนพุ่งออกจากหลังประตู แล้วเหวี่ยงตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดของหลี่ เธอเอาหน้าตัวเองซุกเข้าไปในภูเขาสองลูกนั้น “พะ-พี.. พี่จ๋าถูกตัวอะไรไม่รู้สิงอยู่ค่ะ!” “อะไรนะ? ถ้าอย่างนั้นเราต้องรีบไปเชิญหมอผีมาแล้วล่ะ!” “...” สุดท้าย เรื่องก็จบลงด้วยการที่ชั้นคุกเข่าขอโทษอยู่บนพื้น ถึงแม้ว่าชั้นจะไม่ค่อยชอบการก้มหัวให้ใครก็เถอะ แต่คงช่วยไม่ได้ในเมื่ออีแลนร้องไห้ซะขนาดนั้น ชั้นเองก็ต้องรับผิดชอบส่วนนึงด้วย หลังจากที่รู้ความจริง อีแลนกอดหัวชั้นและก็สะอึกสะอื้น น้ำตาหยดเต็มหัวชั้นไปหมด ที่จริง อย่างกับชั้นตกน้ำเลย ทางที่ดีที่สุดคือขอโทษจริงๆด้วย ขอโทษนะอีแลน! ยกโทษให้โรคย้ำคิดย้ำของชั้นด้วยเถอะ! “ฉันไม่รู้จะพูดยังไงเลยนะคะ นี่คุณอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย? ยังจะคิดถึงอะไรโง่ๆแบบนั้นอยู่อีก” หลี่มองมาที่ชั้นด้วยท่ากอดอก “ช่างมันเถอะ แล้วเธอมาที่นี่เรื่องอะไรล่ะ?” ชั้นลูบหัวอีแลนและถามเธอ “โอ๊ะ จริงสิ “ หลี่หัวเราะออกมา นี่ดีกว่าเยอะเลย สุดท้ายเธอก็ดูดีมากกว่าเวลาเธอยิ้มออกมา “อันที่จริง พอดีพี่ออกไปข้างนอกน่ะ ฉันก็เลยเฝ้าร้านอยู่คนเดียว ดังนั้น…” เดี๋ยวนะ เดี๋ยว อธิบายแบบนี้คืออะไรกัน? โอ้วว มันต้องเป็นนั่นแน่เลย ‘ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่ร้าน เพราะอยากจะมาเล่นกับฉันมั้ย?’ เพราะงั้นเธอจะบอกเป็นนัยๆว่า แม้ว่าชั้นจะไม่รู้ตัว แต่จริงๆแล้วชั้นค่อนข้างป๊อบในหมู่สาวๆสินะ ด้วยบุคลิกที่ดูลึกลับแบบนี้ สาวๆถึงได้สนใจชั้นใช่มั้ย? เดี๋ยวสิ นี่ชั้นควรจะตอบรับกับสถานการณ์แบบนี้ดีรึเปล่า? อีกอย่างอีกฝ่ายเองยังเด็กอยู่เลยนะ… “ดังนั้น คุณจะช่วยฉันดูแลพวกดอกไม้ได้รึเปล่าคะ?” “เอ๋…?” “พวกดอกไม้น่ะค่ะ ในร้านมันมีดอกไม้หายากอยู่ แต่ดูเหมือนพวกมันจะป่วย…” “ที่นี่มันใช่ที่ที่ควรจะเอาปัญหาเรื่องดอกไม้มาถามรึไงกัน?” ชั้นยืดตัวขึ้นบนเคาน์เตอร์ หลี่ยิ้มกลับมา “เป็นเพราะว่าลุงไจ้ รู้เรื่องต่างๆเยอะแยะยังไงล่ะคะ” สุดท้าย ชั้นก็ปล่อยอีแลนไว้ในร้านขายอาวุธ และเดินตามหลี่เข้าไปในร้านดอกไม้ อีแลนดูไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ แต่ไม่มีทางที่เธอจะออกมาได้ ถ้าข่าวลือที่ว่าเธอเป็นภูติกระจายออกไปล่ะก็ เธอคงจะถูกฆ่าแน่ๆ ถ้าเอาอย่างดีที่สุด เธอก็คงถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน เธอจะถูกเปิดเผยตัวเอาได้ง่ายๆเลย ถ้าหมวกเธอถูกเอาออก ดังนั้นชั้นจึงต้องพยายามอย่างหนักไม่ให้เธอออกมาข้างนอก พอเข้ามาในที่ลับตาคน หลี่ก็หยุดเดินและจ้องมาที่ชั้น “ลุงไจ้คะ คุณไม่คิดบ้างหรอคะ ว่าผิวของอีแลนดูซีดเกินไปน่ะ?” “อ่า..ที่จริงมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่” ชั้นบอกจากใบหน้าหลี่ไม่ได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เพราะงั้นชั้นเลยทำได้แค่ตามน้ำไป ถ้าเราถูกเปิดโปงล่ะก็ สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือการหนีออกจากหมู่บ้าน สายตาของชั้นเฉียบคมขึ้นมา “ลุงไจ้ คุณรู้เหตุผลใช่มั้ยคะ?” เสร็จกัน! เราถูกมองออกแล้วแน่ๆ นี่ต้องเป็นการยืนยันแน่ๆ หลี่กำลังลองเชิงชั้นอยู่ เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้ ภายใต้รอยยิ้มที่ดูสดใสนั่น มีอะไรอย่างอื่นซ่อนอยู่งั้นหรอ? ชั้นนี่ไม่ระวังเอาซะเลย อย่างไรก็ตาม ชั้นคิดไม่ออกว่าชั้นพลาดตรงไหนกัน นี่มันสัญชาติญาณของผู้หญิงงั้นเรอะ? หรือว่าเป็นความสามารถพิเศษของหลี่กันแน่? ที่นี้จะเกิดอะไรขึ้น? เราควรจะหนีรึเปล่า? ชั้นกลืนน้ำลาย “ไม่ใช่ว่านี่ ..ลุงไจ้ คุณให้เอแลนอยู่แต่ในบ้าน บางทีคุณต้องปล่อยให้เธอออกมาข้างนอกเหมือนเด็กคนอื่นบ้างนะ ดอกไม้จะเติบโตขึ้นได้ถ้าหากพวกเขาได้รับแสงแดดยังไงล่ะ!” หลี่กับใบหน้าที่มองมาอย่างตรงไปตรงมา จิ้มหน้าอกชั้น แต่อีแลนเป็นดอกไม้จากนรกเชียวนะ ไม่โดนแดด คงไม่เป็นไรหรอก… “อ๊ะ อ่า… ฮ่า ฮ่า ฮ่า เธอพูดถูก ไว้ชั้นจะพาอีแลนออกมาเล่นข้างนอกบ้างละกัน” นั่นอันตรายชะมัด เกือบไปแล้ว… สุดท้าย ดีนะที่เราไม่ต้องหนีออกจากที่นี่ หลังจากที่ผ่อนคลายลง ช่วยไม่ได้ที่ชั้นรู้สึกอยากจะฉลอง ทักษะการปิดบังของชั้นยังดีอยู่แฮะ “ไหนดูสิ….อ่า..เห็นล่ะ ใบไม้นี้… นี่จะต้องเป็นเจ้าแมลงโมซุตัวร้าย ‘กุน บุลา’ มันเกิดจากพวกแป้งที่ผู้หญิงใช้กันน่ะ เธอควรเอามันไปตากแดดทุกๆวัน วันละสองชั่วโมงนะ แล้วก็โรยพวกเศษลินินกับหญ้าจากโรงม้าลงในดินนิดหน่อย หลังจากนั้นสองถึงสามวัน มันก็จะรักษาตัวเองตามธรรมชาติน่ะ ลดการให้น้ำมันลงครึ่งนึงจากปกติด้วยล่ะ อีกอย่าง จะดีกว่าถ้าเธอพ่นพวกยาฆ่าแมลงด้วยน่ะ แต่ถ้าเธอไม่มีก็ไปที่สระน้ำ แล้วก็หากบลิ้นยาว มาวางไว้ใกล้ๆก็พอแล้วล่ะ พวกนี้มันเป็นมิตร มันจะไม่ทำให้ดอกไม้เสียหายหรอก” หลี่มองมาที่ชั้นอย่างอายๆ ชั้นจบลงด้วยการไปเอากบลิ้นยาวมาให้ เจ้ากบโง่ๆนั่นก็ยืนนิ่งๆ อยู่ข้างๆ ดอกไม้ “ขอบคุณค่ะ ลุงไจ้” “เมื่อไหร่ที่พี่สาวเธอกลับมา บอกเธอด้วยว่าดอกสีม่วงที่เธอฝากชั้นไว้ ล่าสุดมันใกล้จะบานแล้ว ให้เธอมาเอามันไปได้เลย” “เดี๋ยวก่อนค่ะ ลุงไจ้ นี่ค่ะ!” เธอส่งกระถางต้นไม้ที่ดอกไม้สีฟ้าอยู่สองสามดอกมาให้ชั้น หลังจากเสร็จเรื่อง ชั้นก็มุ่งหน้ากลับร้าน อีแลนถูกทิ้งไว้ที่ร้านคนเดียว เพราะงั้นชั้นเลยค่อนข้างเป็นห่วงนิดหน่อย “กลับมาแล้ว” “ยิน-ดี-ต้อน-รับ” เธอทำเสียงแปลกๆ และแก้มทั้งสองข้างก็ป่องออกมา เธอโกรธงั้นหรอ? ชั้นยิ้มให้ และเอาดอกไม้ในมือไปทัดผมเธอ เธอเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีในทันที อ่าา เธอยังเด็กอยู่จริงๆนั่นล่ะ เดี๋ยวสิ! ทำไมชั้นถึงรู้สึกเหมือนชายที่กลับบ้านมาหาภรรยาหลังจากที่ออกไปพบกับชู้มากัน!? พอปลอบภรรยาอย่างอ่อนโยนเสร็จ จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก!?

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก