วันพุธ, กรกฎาคม 19, 2560

Because I'm a Weapon Shop Uncle เพราะชั้นคือตาลุงร้านขายอาวุธยังไงล่ะ! : 23 ตาลุงกับโจร(1)

ตาลุงกับโจร (1)
ลุงโบนพูดอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ชั้นเห็นภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมด

เมื่อนาน นานมาแล้ว….ที่จริงก็ไม่ได้นานหรอก แค่เป็นเรื่องที่ผ่านมาสักพักแล้ว

มันมีปีศาจที่อาศัยอยู่ในป่าใกล้ๆ ออกมาโจมตีหมู่บ้านอย่างผิดปกติ ปรากฏตัวและหายไปราวกับภูติผี แม้แต่เจ้าหน้าที่สืบสวนก็จนปัญญา

ครั้งแรกที่ปีศาจมันโจมตีหมู่บ้าน มันฆ่าคนไป 700 คน และยิ่งเวลาผ่านไปมันก็กลายเป็นการสังหารหมู่ หลังจากนั้นก็มีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า ‘นักรบของประชาชน’ พวกนั้นส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนออกไป และทำการขับไล่เจ้ามอนสเตอร์ตัวนั้น

ตอนแรกพวกชาวเมืองก็ฉลองกับชัยชนะ แต่ผ่านไปสักพักพวกเขาก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่คนดี พวกนั้นไม่ใช่คนที่กล้าหาญหรือวีรบุรุษอะไรแบบนั้น พวกนั้นเป็นแค่พวกคนร้ายที่ชาญฉลาด

พวกนั้นสมรู้ร่วมคิดกับคนที่มีอำนาจมากที่สุดในเมือง พวกขุนนาง ขูดรีดเงินจากประชาชน เบื้องหลังเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเล็กๆนี่ เป็นกลุ่มคนงานที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความหนาวเย็นและหิวโหย คอยเลี้ยงปากท้องให้แก่เจ้าพวกที่เก็บเกี่ยวโดยที่ไม่ได้ลงมือหว่านเมล็ด ถึงมันจะดูมีชีวิตชีวา ที่จริงแล้วมันมืดมนมาก

ยิ่งไปกว่านั้นคือ มีชาวเมืองบางคนพยายามจะต่อต้าน แต่ก็แทบจะไร้ผล พวกเขาคิดที่จะให้เมืองนี้ได้ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด และมีคนที่จะไปรายงานเรื่องนี้ต่อพวกคณะปกครอง แต่ขุนนางพวกนั้นที่ครอบครองเงินสกปรกไว้ คอยกดเรื่องให้เงียบ และผู้ที่ให้ข้อมูลก็ถูกฆ่าทิ้งอย่างไร้ความปราณี

มันมีบางครั้งที่อดออยากจนกระทั่งไม่มีอาหารจะกิน ทำให้ทั้งเมืองเริ่มลุกฮือต่อต้าน แต่โจรพวกนั้นมันก็แข็งแกร่งมาก ยิ่งกว่านั้น ปีศาจก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีก ทำให้ชาวเมืองบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก และพวกเขาก็ทำได้แค่ต้องเชื่อฟังคำสั่งพวกโจรเท่านั้น

ถึงแต่เดิมแล้วชั้นจะคิดว่าปัญหานี้มันคงไม่ใช่ง่ายๆแน่ แต่ชั้นก็ไม่ได้คิดว่าพวกเจ้าหน้าที่กับโจรจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันมากขนาดนี้ แม้แต่การปรากฏตัวของปีศาจที่ทำให้การลุกฮือต่อต้านไม่สำเร็จ พวกนั้นทำให้เกิดกลุ่มทาสหญิงที่เฝ้ารอคอยความตาย และผู้คนที่ได้แต่คร่ำครวญกับโชคชะตาของตน

“พูดมากไปซะแล้วสิ แล้วเจ้าเป็นใครกันล่ะนี่?”

โฮ่ ลุงโบน คุณนี่ช่างแข็งแกร่งและกล้าหาญจริงๆ

“พ่อค้าเร่น่ะ ยังไงก็เถอะ เพื่อนชั้นเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนน่ะ”

“เจ้ากำลังโกหกข้าอยู่ แค่มองครั้งเดียวข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าเป็นช่างตีเหล็ก ค่อนข้างเชี่ยวชาญซะด้วย ตาแก่คนนี้เทียบไม่ติดเลย”

ลุงโบนมีสัญชาตญาณที่ดี สายตาที่จ้องออกมาจากดวงตาของเขานั้นช่างรวดเร็วและรุนแรง

คนๆนี้ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เขาจะไม่ยอมตายแน่ๆ

เป็นคนที่เคี้ยวยากเอาการ

ชั้นเตรียมตัวบอกลาตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างรุนแรง
“เฮ้! ตาแก่! ออกมานี่ซะดีๆ!”

ลุงโบนย่อตัวลงในกล่อง ส่งสัญญาณไม่ให้ชั้นเปิดประตู

“ถ้าแกไม่จ่ายล่ะก็ ครั้งหน้าชั้นจะแทงแกให้ตายเลย”

ปึงปึงปึง ปึงปึงปึง

น่ารำคาญชะมัด

ชั้นเปิดประตูออกไป ตรงทางเข้ามีพวกอันธพาลอยู่สามคน แต่ละคนแลดูหน้าโง่ๆ มีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้าม ผมที่ยุ่งเหยิง และดาบเหล็ก
“อ๊ะ? หมอนี่เป็นใครกัน?”

“ขอโทษที ชั้นเป็นพ่อค้าเร่น่ะ อยากจะมาเช็คอุปกรณ์สักหน่อย แต่เจ้าของที่นี่ดันไม่อยู่ซะงั้น”

พวกนั้นเปลี่ยนท่าทางทันที

เมืองนี้เป็นสถานที่ที่พวกพ่อค้ามีความสำคัญมาก เพราะถ้าไม่มีพวกพ่อค้ามาที่นี่ เมืองนี้ก็คงเป็นเหมือนสระน้ำที่แห้งเหี่ยว และคงไม่มีเงินให้เก็บ

เพราะแบบนี้ทำให้พวกเขาสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนกับพวกพ่อค้า กระทั่งภาษีเองก็ยังต่ำ ถึงแม้จะเป็นพวกโจร พวกนั้นก็คงถูกสั่งมาไม่ให้ทำร้ายพวกพ่อค้าเร่ มันเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างสะดวกซะจริงๆเลยนะ

“โอ้ พ่อค้าเร่ พวกข้าต้องขอโทษจริงๆ แต่ช่วยเปิดหน้าให้ดูหน่อยได้มั้ย?”

ชั้นส่งเหรียญเงินสามเหรียญใส่มือของหัวหน้าพวกมัน

“ชั้นต้องขอโทษด้วยจริงๆ พอดีหน้าชั้นถูกหมาป่าข่วนมา การไม่เปิดเผยมันคงจะดีกว่า ชั้นขอให้ช่วยเข้าใจด้วย ตาแก่คนนั้นเป็นลูกค้าเก่าของชั้น ถ้าเขาติดเงินพวกนาย งั้นชั้นก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ชั้นไม่รู้ว่าเท่านี้จะพอรึเปล่า?”

ทันใดนั้นเจ้าหมอนั่นก็เสยผมและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า พอแล้ว พอแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย นี่แหละพ่อค้า เจ้านี่ตรงไปตรงมาดีจริงๆ พวกเรา! ไปกันเถอะ!”

หมอนั่นเอาเหรียญเงินโยนใส่กระเป๋าด้านหลัง ขณะที่อีกสองเหรียญที่เหลือเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง

ลุงโบนคลานออกมาจากกล่อง

“เด็กหนุ่มสมัยนี้รู้วิธีปฏิบัติตัวดีทีเดียว”

ชั้นปิดประตูไม้ลง

“อย่างที่ลุงพูด ชั้นเป็นช่างตีเหล็ก แต่ตอนนี้เป็นพ่อค้าเร่ ชั้นต้องคิดถึงราคาสินค้า ลุงให้ข้อมูลดีๆกับชั้น จ่ายรางวัลให้นิดหน่อยไม่ใช่เรื่องใหญ่”

“หึ ข้อมูลอะไรกัน ยังไงก็เถอะ เจ้าต้องระวังตัวนะ ถึงเจ้าหน้าที่สืบสวนจะรู้เรื่องนี้ก็เถอะ พวกนั้นก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพื่อนของเจ้าคงจะทำเป็นมองไม่เห็นแน่ๆ”

ในใจชั้นหัวเราะออกมาอย่างดัง แต่ชั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ลุง เจ้าสัตว์เวทย์นั่น มันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”

“พระเจ้าช่วย เจ้าสิ่งนั้นมันน่ากลัวมาก นอกซะจากพวกนักผจญภัยจะส่งคนมา ไม่มีทางที่จะจัดการมันได้! ถ้าเจ้าราชาหมาป่าที่ฆ่าคนในป่าไปมากมายมาเห็นเจ้านั่นล่ะก็ มันคงจะหันหลังกลับและวิ่งหนีไปแน่ๆ”

ไม่มีทางที่จะรู้ระดับความแข็งแกร่งของมันได้เลยรึไงกัน? ชั้นว่าเจ้าหมาป่านั่นเองก็คงวิ่งหนีหางจุกตูดเหมือนกันถ้ามันมาเห็นชั้นตอนนี้

ช่างมันเถอะ ชั้นก็แค่จัดการกับมันเหมือนที่มัน “แข็งแกร่งสุดๆ”

“อีกเรื่องนะลุง ชั้นอยากให้ลุงดูดาบชั้นหน่อย”

ชั้นหยิบดาบเงินสั้นๆออกมาจากผ้าคลุม

สายตาของลุงโบนเปล่งประกาย

“โอ้!! สายตาของตาแก่อย่างข้ามองไม่ผิดไปจริงๆ เจ้าเป็นช่างตีเหล็กที่เก่งกาจมาก”

อย่างที่ชั้นเคยพูดไป ลุงโบนก็กล่าวออกมาว่า

“แต่มันยังขาดการควบคุมในเรื่องของความร้อนอยู่ ดาบของเจ้าไม่ได้ถูกตีขึ้นมาด้วยค้อน เหมือนกับว่ามันถูกอัดแน่นเข้ามามากกว่า”

“ใช่แล้ว มันเป็นเพราะสกิลน่ะ ชั้นไม่จำเป็นต้องหลอมมัน แต่สิ่งที่มันขาดไปในแง่ไหนล่ะ?”

ลุงส่งดาบคืนให้ชั้นอย่างระมัดระวัง

“ตาแก่อย่างข้าบอกไม่ได้หรอก เพราะข้าไม่เคยทำมีดออกมาได้ดีแบบนี้เลย แต่ข้าบอกได้อย่างนึง การหลอมนั้นไม่ใช่แค่เอาสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป มันยังมีจุดประสงค์อื่นอีก มันเป็นเรื่องที่เจ้าต้องเข้าใจด้วยตัวเอง”

ชั้นเงยหน้าขึ้นมาดูเวลา และมันก็เที่ยงแล้ว มันยังไม่สายที่ชั้นจะกลับไปที่หาคาโลน่าที่โรงแรม

“นั่นเป็นคำแนะนำที่เยี่ยมไปเลย ลุงโบน ถ้าชั้นฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาให้เมืองนี้ได้ล่ะก็ ลุงต้องบอกชั้นถึงความหมายที่ลึกซึ้งของการหลอมนะ และต้องเหตุผลด้วยว่าทำไมลุงถึงไม่ทำอาวุธน่ะ”

ลุงโบนพยักหน้า

“ตกลง ข้าสามารถทำเรื่องนั้นได้ แต่ข้าต้องขอให้เจ้าออกไปจากเมืองนี้ทันที ไม่ใช่แค่สัตว์เวทย์ แต่พวกหัวโจกของกลุ่มโจรเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน โดยเฉพาะผู้นำของมัน เบลแมน ไม่ใช่แค่แข็งแกร่ง มันยังโหดเหี้ยมและไร้ความปราณี และมีพละกำลังที่ไร้คู่ต่อกร แค่หมัดเดียวก็สามารถทำลายหินได้”

ไม่มีอะไรที่เจ๋งกว่านี้ให้เปรียบเทียบแล้วหรอ? หมัดชั้นก็ทำลายหินได้เหมือนกันนะ ถ้าเป็นแบบนี้ ชั้นก็ไม่รู้สิว่าใครแข็งแกร่งกว่า

อย่างไรก็ตาม เจ้าสัตว์เวทย์นั่นต้องเป็นตัวอะไรที่พวกนั้นฝึกให้เชื่องแน่ๆ ในเมื่อพวกนั้นมันแข็งแกร่ง ชั้นก็จะตัดสินให้พวกนั้นเป็นประเภท ‘แข็งแกร่งสุดๆ’ ไว้ก่อนก็แล้วกัน

“มีอะไรจะต้องกลัวล่ะ? เจ้าหน้าที่สืบสวนของเราเป็นที่หนึ่งของชั้นปีเลยนะ”

ถึงประสบการณ์เธอจะยังไม่พอก็เถอะ ความแข็งแกร่งของเธอก็ไม่สามารถมองข้ามไปได้ง่ายๆ


นอกจากพวกโจรแล้ว ชั้นต้องคิดหาทางรับมือกับพวกขุนนางไว้ด้วยสิ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก