วันพุธ, เมษายน 05, 2560

Atelier Tanaka ตอนที่ 3 : กิลด์นักผจญภัย(2)

กิลด์นักผจญภัย (2)

ชั้นเดินไปตามแม่น้ำ และมันก็พากลับมาที่เมืองจริงๆ ชั้นกลับมาสู่ความเจริญได้สำเร็จ

(คราวหน้าชั้นน่าจะเอาขนมไปให้ก๊อบลินซังเพื่อเป็นการขอบคุณ)

ชั้นมุ่งหน้าไปที่กิลด์นักผจญภัยเพื่อรายงานว่าชั้นทำภารกิจเก็บสมุนไพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“โฮ่ นี่มันหญ้ามาคอนไม่ใช่รึ?”

“คืออะไรล่ะนั่น?”

ชั้นกำลังพูดคุยอยู่กับชายหัวล้านกล้ามโตที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์

“มันเป็นสมุนไพรที่มีค่ามากกว่าหญ้าอารูน่าในภารกิจซะอีก หายากมากที่มันจะโตอยู่แถวๆนี้”

“เอ๋ จริงดิ? ถ้างั้นหมายความว่าชั้นทำภารกิจล้มเหลวงั้นหรอ?”

“ปกติแล้วจะเป็นแบบนั้น แต่ก็นะ ชั้นจะยกเว้นให้และแลกเปลี่ยนให้แกก็แล้วกัน เราหาหญ้าอารูน่าได้ทั้งปีอยู่แล้ว และยังไงมันก็ไม่มีการจำกัดเวลาในการเก็บด้วย”

(เข้าใจล่ะ ภารกิจแบบนี้ฟังดูเหมือนให้พวกคนไร้บ้านตามเก็บพวกกระป๋องเลยแฮะ เป็นงานที่เหมาะมากสำหรับคนอย่างชั้น)

“ขอบคุณมาก”

(หมอนี่อาจจะดูน่ากลัว แต่บางทีเขาอาจจะใจดีอย่างน่าประหลาดใจเลยก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผลลัพธ์ล่ะนะ)

“นี่ค่าตอบแทนของแก”

“อ่า ขอบใจ”

เขาหยิบเหรียญออกมาเคาน์เตอร์

“สำหรับหญ้ามาคอนจำนวนขนาดนี้ ค่าตอบแทนอยู่ที่ 3 เหรียญเงินกับอีก 10 เหรียญทองแดง”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณ”

(ชั้นไม่รู้หรอกว่าเหรียญเงินนี่มันมีค่าเท่าไหร่ แต่ชั้นก็ควรรับมันเอาไว้)

เหรียญส่งเสียง *กริ๊งๆ* ออกมาตอนที่ชั้นยัดมันลงใส่กระเป๋า

“และด้วยสิ่งนั้น ภารกิจแกก็เสร็จสมบูรณ์”

มันยากที่ชั้นจะพูดอย่างอื่นนอกจากขอบคุณ ช่วยไม่ได้ที่ชั้นจะไม่คุยดีๆกับคนที่ดูท่าทางน่ากลัว บรรยากาศรอบๆมันทำให้ชั้นไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ มันให้ความรู้สึกเหมือนชั้นจินตนาการถึงตัวเองไปอยู่ตามชานเมืองตะวันตก

ชั้นไม่เห็นพวกคนต่างถิ่นที่นี่ ดังนั้นด้วยการที่ชั้นเป็นคนญี่ปุ่นตัวเล็กๆ มันเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกจ้องใส่

ชั้นออกไปอย่างรีบร้อนเล็กน้อย

◇◆◇

การที่ไม่รู้ค่าของเงินเป็นปัญหาใหญ่ ชั้นต้องจัดการกับมัน

ดังนั้นชั้นเลยให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เจอบนถนนบอกเกี่ยวกับราคากลางเพื่อแลกเปลี่ยนกับทิป

หนึ่งเหรียญเงินมีค่าเท่ากับ 100 เหรียญทองแดง อาหารหนึ่งมื้ออยู่ที่ประมาณ 5 ถึง 10 เหรียญทองแดง การจะพักที่โรงแรมก็ต้องใช้อย่างน้อย 13 เหรียญทองแดง

ชั้นให้เธอไป 3 เหรียญทองแดง และเธอก็จากไปอย่างมีความสุข

(ถ้าชั้นใช้วิธีนี้กับสาวญี่ปุ่นม.ปลายล่ะก็ พวกเธอคงเรียกจะเอา 3000 เยน ถ้าไปคุยกับสาวม.ต้น ชั้นคงถูกจับ และถ้าเป็นเด็กประถมล่ะก็ สัญญาณเตือนภัยคงดังก่อนที่ชั้นจะได้คุยแหงๆ)

(ตอนนี้ ชั้นต้องซื้อกระเป๋ากับเสื้อผ้าสักหน่อย ชั้นต้องใช้อะไรอีกบ้างนะ…?)

เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของชั้นแห้งแล้ว ต้องขอบคุณสภาพอากาศ แต่พวกมันก็ขาดรุ่งริ่ง และชั้นเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะใช้ต่อไปได้รึเปล่า

ชั้นเดินเข้าไปในร้านที่เจอตามถนนแบบสุ่มๆ และถามเกี่ยวกับราคา

เสื้อผ้ามือสองถูกกว่ามาก และชั้นก็ซื้อมาเป็นชุดเซ็ทโดยที่ไม่เสียเงินไปมากนัก กางเกงกับเสื้อแจ็คเก็ตทำมาจากหนังหนาๆ และกางเกงในก็ทำมาจากอะไรบางอย่างที่คล้ายกับผ้าฝ้าย

ชั้นเดินหาอยู่หลายร้าน และซื้อกระเป๋าที่ทำจากหนังชนิดเดียวกัน ที่มีช่องใส่ของกับเชือกมัดปากถุงมากกว่ากระเป๋าถือ

โดยรวมแล้วชั้นใช้เงินไปทั้งหมด 1 เหรียญเงิน มันทำให้รู้สึกว่าแพงกว่าเมื่อเอาไปเทียบกับค่าอาหารและที่พัก

ชั้นเหลืออยู่แค่ 2 เหรียญเงิน

(ชั้นจะทำยังไงกับเงินที่เหลืออยู่ดีนะ? โอ๊ะ ชัดเลยว่านี่เป็นโลกแฟนตาซีสินะ ดังนั้นชั้นจำเป็นต้องมีดาบ)

ชั้นเคยฝันว่าจะเป็นนักดาบตอนอายุ 14 และตอนนี้โอกาสก็มาอยู่ตรงหน้าชั้นแล้ว มันใกล้จะมืดแล้ว ดังนั้นชั้นจึงรีบเดินไปตามถนนมองหาร้านขายอาวุธ


◇◆◇


“ยินดีต้อนรับ”

ชั้นเจอร้านขายอาวุธแล้ว พวกเขามีทั้งดาบ ขวาน หอก และอย่างอื่นที่ชั้นไม่รู้จักอีก มันทำให้ชั้นนึกถึงสวนสนุกเลย

(อ่า ชั้นสามารถดูเจ้าพวกนี้ได้ทั้งวันเลยนะเนี่ย)

(แต่เดี๋ยวก่อนสิ นี่มันโคตรแพงเลยนี่หว่า)

พอดูที่ป้ายราคา อาวุธส่วนใหญ่มีราคาอยู่ประมาณ 30 ถึง 50 เหรียญเงิน ส่วนของที่แพงที่สุดที่ชั้นเห็นมีราคาถึง 300 เหรียญเงิน

(เฮ้ เฮ้ นี่มันมากพอจะซื้อรถได้เลยนะ)

“ยะโฮ่…?”

ถ้าชั้นได้ดาบโดยใช้แค่ 1 เหรียญเงินก็คงจะดี แต่เจ้าพวกนี้มันราคาแพงเกินไป

“มีอะไร?”

“มีอะไรที่ชั้นพอจะซื้อได้ด้วย 1 เหรียญเงินมั้ย?”

“ 1 เหรียญเงินหรอ? ไม่มีหรอก”

(พูดตรงชะมัด เป็นเจ้าของร้านที่หยาบคายอะไรแบบนี้!)

พอชั้นมองไปที่เจ้าของร้าน ชั้นก็เห็นว่าเขาดูคล้ายๆกับดวอร์ฟมาก ที่จริงเขาก็คือดวอร์ฟน่ะแหละ

(ดวอร์ฟตัวจริงเสียงจริงหรอเนี่ย! สุดยอดเลย)

“ไม่มีงั้นหรอ?”

“เข้ามาที่ร้านของข้าแล้วยังจะมาหาของราคาแค่ 1 เหรียญเงินงั้นเรอะ แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ไม่ว่าที่ไหนแกก็หาอาวุธที่ราคาแค่ 1 เหรียญเงินไม่ได้หรอก”

“อ่า เข้าใจแล้ว ขอโทษที่มารบกวนนายก็แล้วกันนะ”

“ถ้าแกไม่ได้จะมาซื้ออะไรก็ไสหัวออกไปซะ”

“เอ๋?”

ชั้นถอดใจกับร้านนั้นและออกมา ขณะที่เดินไปตามถนน คิดว่าจะทำยังไงต่อไป

(ชั้นสามารถไปรวมรวบสมุนไพรพวกนั้นอีก แต่อย่างเดียวที่ทำให้ชั้นได้พวกมันมา เป็นเพราะชั้นได้พบกับก๊อบลินที่เป็นมิตร ไม่มีทางที่อะไรอย่างนั้นมันจะเกิดขึ้นซ้ำสองหรอก)

(อาวุธก็แพงสุดๆ ชั้นอยากให้อย่างน้อยก็มีพวกอาวุธพื้นฐานไว้ป้องกันตัวเองจังเลยน้า)

(อ๊ะ แล้วเวทมนตร์ล่ะ!? บางทีชั้นอาจจะปล่อยลูกไฟ หรืออะไรบางอย่างได้นะ)

ชั้นมีเวทย์ฟื้นฟู มันไม่ใช่เวทมนตร์ที่เอาไว้โจมตี แต่ชั้นก็มี MP อยู่เยอะเลย

ติดตัว : การฟื้นฟูมานา : Lv.Max
          ความชำนาญเวทย์ : Lv.Max

ใช้งาน : เวทย์ฟื้นฟู : Lv.Max

แต้มสกิลที่เหลือ : 2

(เวทย์ฟื้นฟูยังเป็นสกิลเปิดใช้งานเพียงอันเดียวของชั้นอยู่ แต่ชั้นได้แต้มสกิลมาหน่อยนึงล่ะ แจ๋ว!)

(ชั้นจะต้องใช้พวกมันทำอะไรบางอย่าง แต่จะชั้นใช้มันยังไงล่ะ? ชั้นมองเห้นหน้าต่างพวกนี้นะ แต่มันไม่มีของอย่างพวกเคอร์เซอร์อยู่เลย)

(ไม่สิ เดี๋ยวนะ ชั้นแค่คิดว่าจะใช้เวทย์ฟื้นฟูแล้วมันก็ได้ผลนี่)

ชั้นพึมพำอยู่กับตัวเองขณะที่เดินไปด้วย

“ชั้นจะยิงลูกไฟ ลูกไฟ ลูกไฟ ลูกไฟ ลูกไฟ กำแพงไฟได้ก็โอเค ศรไฟก็ดีเหมือนกัน หอกเพลิง ก็คงจะดูเท่ดี”

ชั้นรู้สึกเหมือนทุกคนที่อยู่ใกล้ๆจ้องมาที่ชั้นเหมือนว่าชั้นเป็นคนบ้า แต่ชั้นพยายามจะเมินพวกนั้นไป

หลังจากนั้นสักพักก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ชั้นรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นอยู่ในร่างกาย

(ได้ผลงั้นหรอ?!)

ชั้นเช็คสกิลของชั้นอีกรอบ

ติดตัว : การฟื้นฟูมานา : Lv.Max
          ความชำนาญเวทย์ : Lv.Max

ใช้งาน : เวทย์ฟื้นฟู : Lv.Max
เวทย์ไฟ : Lv.1

แต้มสกิลที่เหลือ : 1

“ฮ่า! นี่ไงล่ะ!”

ชั้นไม่รู้รายละเอียดของสกิลที่ได้มา แต่ชั้นหวังว่ามันจะเป็นอะไรที่สามารถใช้เผาศัตรูได้นะ ถ้าชั้นทำแบบนั้นได้ล่ะก็ ต่อให้ไม่มีดาบก็ไม่เป็นไร

(เอาล่ะ ทีนี้ก็ ได้เวลาหาโรงแรมพัก)

(ตอนที่ชั้นหลงทางในป่าพร้อมกับอึบนมือ ชั้นเป็นกังวลมากเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ชั้นรู้แล้วว่าจะทำยังไง)

(หืมม ชั้นสงสัยจังเลยว่าเลเวลสูงสุดของสกิลนี่มันเท่าไหร่กันนะ)

(แล้วคนอื่นๆเพิ่มเลเวลสกิลกันยังไงล่ะ? พวกเขาเห็นหน้าต่างเหมือนกัน และก็ใช้แต้มสกิลโดยการพูดกับตัวเองงั้นหรอ? ชั้นอยากให้ดูข้อมูลพวกนี้แบบออนไลน์ได้จัง)

(บางทีชั้นน่าจะหาเด็กสาวตัวน้อยๆตามถนนมาถามดูนะ)

ชั้นดีใจมากเลยที่พวกเด็กแถวๆนี้ยอมคุยกับคนหน้าตาน่าเกลียดๆแบบชั้น

(อันที่จริง มาคิดๆดูจากการที่พวกเธอมีความสุขขนาดไหนพอได้รับเงิน บางทีชั้นเองก็น่าจะใช้เงินเข้าไปในซ่องได้เหมือนกันสินะ)

(ชั้นจะลองดูดีมั้ยนะ?)

(...)

(สำหรับตอนนี้ ชั้นควรจะหาอาหารกินสักหน่อย อย่างเดียวที่ชั้นได้กินวันนี้มีแค่น้ำจากแม่น้ำในป่าเอง หิวจริงๆเลยแฮะ)

◇◆◇

พอพระอาทิตย์ตกดิน ร้านเหล้าบางร้านก็เริ่มเปิด มีกลิ่นหอมๆลอยออกมาจากทางเข้า ชั้นเลยเดินเข้าไป

ประมาณ 90% ของที่นั่งเต็มหมดแล้ว ชั้นคว้าที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ที่เหลือไว้อย่างกับนักเบสบอลสไลด์เข้าโฮมเบส และสั่งอาหารจานเนื้อที่ไม่รู้จัก

ขณะที่ชั้นจดจ่ออยู่กับอาหารตรงหน้า ชั้นก็ได้มีประสบการณ์ครั้งแรกกับแอลกอฮอล์ของโลกนี้

(ไม่เลวเลย)

เนื้อที่ดูเหมือนสเต็ก และเครื่องดื่มที่คล้ายๆกับเบียร์เยอรมัน ทั้งสองอย่างนี้เป็นของที่ชั้นชอบ

“อร่อยมาก”

ชั้นจัดการกับอาหารที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว ชั้นเดินมาทั้งวันแล้วดังนั้นชั้นค่อนข้างหิวเลยล่ะ

หลังจากที่จัดการอาหารเสร็จแล้ว ก็จัดการกับเครื่องดื่มที่เหลือ

(อ่า แอลกอฮอล์หวานดีจริงๆ โชคดีชะมัดเลยที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอยู่ที่นี่ด้วย)

ชั้นซัด 2 แก้ว

“ฟู่ววว” ชั้นมองไปบนเพดานขณะที่พ่นลมออกมา

(ชั้นคอไม่แข็งสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่ควรจะดื่มมากนัก)

(แต่อีกสักแก้วคงไม่เป็นไรหรอก...)

ชั้นโบกมือให้พนักงานเพื่อสักอีกแก้ว นั่นเป็นตอนที่มีอะไรแข็งๆกระทบเข้ากับหลังหัวของชั้น

“..โอ๊ย..”

มันเป็นเสียงของอะไรบางอย่างแตก มีใครบางคนขว้างจานมา

(ที่นี่มันสถานที่แบบไหนกันเนี่ย!?)

“ฟื้นฟู-ฟื้นฟู..?”

ขณะที่ชั้นลูบหลังหัวไปด้วย ชั้นก็ใช้เวทย์ฟื้นฟู ความเจ็บปวดหายไปในทันที และชั้นก็หันกลับไป

มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น คนที่ดูท่าทางน่ากลัวสองคนที่ชั้นเห็นในตึกกิลด์กำลังเผชิญหน้ากัน ขณะที่ชั้นดูอยู่ พวกเขาก็เริ่มพุ่งเข้าใส่กันอย่างกับสัตว์ป่า

(ชั้นควรจะทำอะไรดี?)

(....)

ชั้นหันไปด้านขวาอย่างเงียบๆและมองไกลออกไป ชั้นไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย

“เอ่อ ขอโทษนะ ชั้นขออีกแก้วได้มั้ย?”

ชั้นเสียงเบากว่าปกติตอนที่สั่งพนักงานเสิร์ฟ

“...คุณเป็นอะไรรึเปล่า? เสียงก่อนหน้านี้มันไม่ธรรมดาเลยนะ”

พนักงานเสิร์ฟเป็นห่วงท้ายทอยของชั้นด้วย

(ช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้!)

เธอดูอายุประมาณ 15 ปี และค่อนข้างน่ารักเลย ด้วยผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวถึงไหล่ และดวงตาสีน้ำตาลแดงคู่นั้น เธอเดินไปมารอบๆร้านอย่างกระปรี้กระเปร่า และผ้ากันเปื้อนที่ใส่อยู่ก็เหมาะกับเธอเป็นอย่างดี

“ใช่ๆ ชั้นสบายดี ขออีกแก้วได้มั้ย? เอาแบบเดิมน่ะ”

“คุณ...คุณเป็นคนใจเย็นมากเลยนะ คุณไม่…”

“ไม่เป็นไร จริงๆ…”

(ชั้นไม่เป็นไร ถ้ามีเบียร์อยู่ การต่อสู้ข้างหลังไม่ใช่ปัญหาของชั้นเลย ไม่ใช่ปัญหาของชั้นสักนิด)

เธอพยักหน้าว่าเข้าใจแล้ว และเอาเครื่องดื่มมาให้ชั้นอีกแก้ว


ขณะที่ชั้นกำลังคิดถึงเครื่องดื่มที่กำลังจะได้ ก็มีบางอย่างกระทบเข้าที่ท้ายทอยชั้นอีกครั้ง

“อั่ก...”

มันแย่ยิ่งกว่าครั้งแรกซะอีก ชั้นฟุบลงไปกับเคาน์เตอร์ข้างหน้า และมีบางอย่างกระทบกับพื้นดัง ‘ก๊อง’ มันน่าจะเป็นเสียงของแก้วไม้

“ฟื้นฟู..ฟื้นฟู…”

ชั้นใช้เวทย์ฟื้นฟูด้วยความสับสน และความเจ็บปวดบนหัวก็หายไปอีกครั้ง

“...บ้าเอ๊ย ร้านนี้มัน..”

ชั้นมองไปด้านหลัง และทั้งสองคนก็ยังอยู่ตรงนั้น

“คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

พนักงานเสิร์ฟมาถึงพร้อมกับเครื่องดื่มของชั้น และก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำแบบเดิมอีก ชั้นดีใจจังเลยที่เธอเป็นห่วง

“...ไม่เป็นไรหรอก”

“นั่นมันค่อนข้างดังเลยนะ ถึงอย่างนั้...”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ขอเครื่องดื่มให้ชั้นได้มั้ย?”

“อ๊ะ ค่ะ นี่ค่ะ”

“อ่าาา อร่อยจริงๆ”

“..คุณค่อนข้างแข็งแรงเลยนะคะ อย่างน้อยก็หัวคุณ”

“ไม่หรอก”

(เวทย์ฟื้นฟูนี่มันดีจริงๆ ถ้าชั้นไม่มีมันล่ะก็ ชั้นคงเจ็บไปอีกหลายนาทีเลยล่ะ)

“อ๊ะ…”

“เอ๋?”

จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็ร้องออกมา และก็มีเสียงดังกระหึ่มข้างใต้ชั้น เก้าอี้ถูกกระแทกออกจากใต้ที่นั่งชั้น และชั้นก็ร่วงลงไปบนพื้น

“เหวอออออออ!”

ชั้นร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัวตอนที่ล้มลงไป

(อะไรฟะเนี่ย?)

ถึงชั้นจะยังร้องออกไปอยู่ ชั้นก็ใช้เวทย์ฟื้นฟูอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว

เป็นอีกครั้งที่ความเจ็บปวดหายไป ชั้นลุกขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่ชั้นเห็นสิ่งที่มากระแทกเก้าอี้ที่ชั้นนั่ง เป็นหนึ่งในพวกผู้ชายที่ดูท่าทางน่ากลัวกลิ้งอยู่บนพื้นใกล้ๆ

“คะ คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

“ไม่เป็นไร ชั้นไม่เป็นไร…”

ผู้ชายที่กลิ้งอยู่บนพื้น หัวของเขาถูกกระแทกอย่างแรงทำให้หมดสติไป และคนที่เหลือก็มองไปที่เขาอย่างโกรธเคืองและดูเหมือนจะพอใจ

“เอ่อ คุณครับ…”

พนักงานเสิร์ฟมองมาที่ชั้นอย่างเป็นกังวล ชั้นมีความสุขที่เธอเป็นห่วงคนอย่างชั้นด้วย เวทมนตร์ของชั้นรักษาร่างกายได้ก็จริง แต่สายตาของเธอช่วยเยียวยาจิตวิญญาณของชั้นเลยล่ะ

“..อะไร เจ้าบ้านี่? แกก็จะเอาด้วยงั้นเรอะ?”

ผู้ชายคนที่เหลือจ้องมาที่ชั้น หน้าของเขาแดงฉ่า และเห็นได้ชัดเลยว่าเขาเมาแล้ว

(หมอนี่น่าจะต้องเป็นพวกที่เมาจนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นวันต่อมาแน่ๆเลย)

(สำหรับตอนนี้ ชั้นน่าจะเช็คสถานะเขาก่อน)

ชื่อ : อ็อตโต แม็คแฟร์
เพศ : ชาย
เผ่า : มนุษย์
เลเวล : 23
อาชีพ : นักดาบ

HP:420/509
MP:0/0
STR:170
VIT:220
DEX:121
AGI:87
INT:20
LUC:28

(ไม่มีทางที่ชั้นจะชนะได้เลย)

(ชั้นมีค่า INT ที่สูง แต่ไม่มีเกราะหรือพลังป้องกัน ดังนั้นชั้นคงจอดในหมัดเดียว ชั้นไม่มีแม้แต่โอกาสใช้เวทย์ฟื้นฟูแน่ๆ)

“ไม่ ไม่ใช่…”

ชั้นหยิบเก้าอี้ขึ้นมาตั้งและนั่งลงไปอีกครั้ง

“ฮะ! แกกลัวงั้นเรอะ? ไอ้หนุ่มซิงนี่กลัวด้วยเฟ้ย!”

(แหม… ขอโทษด้วยนะที่ยังซิงน่ะ)

(แล้วทำไมหมอนี่ถึงอยากจะสู้กับชั้นด้วยล่ะ?)

“ขอโทษทีนะ…”

(สำหรับตอนนี้ก็ ชั้นแค่ขอโทษและหวังว่าหมอนี่จะปล่อยชั้นไว้คนเดียวสักที)

“ฮ่าฮ่า เจ้าเปี๊ยกนี่กำลังขอโทษด้วยฟ่ะ!”

หลังจากนั้น ดูเหมือนหมอนั่นจะเบนความสนใจไปจากชั้น

(ฟู่วว ชั้นรอดแล้ว)

ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ชั้นหันหน้าหนีจากหมอนั่นอีกครั้ง เป็นปาฏิหาริย์เลยแฮะ เครื่องดื่มของชั้นบนเคาน์เตอร์ยังปลอดภัย ชั้นหยิบมันมาและเริ่มดื่ม

(อ่าา เบียร์แสนอร่อย อร่อยจริงๆ แต่ยังไง...)

ชั้นไม่สามารถสนุกไปกับการดื่มได้มากสักเท่าไหร่ ที่มีร่างคนนอนอยู่บนพื้นใกล้ๆเท้า ข้างหลังชั้น หมอนั่นก็เริ่มสู้กับชายอีกคน

ชั้นกังวลเรื่องความเครียดทางจิตใจของพนักงานเสิร์ฟจริงๆเลยนะ

(พอแล้วล่ะ สำหรับการดื่มในวันนี้)

“ขอโทษนะ ชั้นอยากคิดเงินเลยน่ะ”

“อ๊ะ ค่ะ…”

ชั้นจ่าย 10 เหรียญทองแดงและเดินออกจากร้านไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก